เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง วันนี้ (4 ตุลาคม 2564) เวลา 08.15 น. พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธี Kick off สร้างเกราะป้องกันด้วยวัคซีน เด็กปลอดภัย เรียนอุ่นใจ ต้อนรับเปิดเทอม ณ โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์ ถนนลาดพร้าว เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร โดยมีนางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วมในพิธี โดยการฉีดวัคซีน Pfizer ให้กับนักเรียนที่มีอายุ 12 – 18 ปี เป็นความร่วมมือระหว่างกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งนอกจากที่โรงเรียนพิบูลย์อุปถัมภ์แล้ว ยังมีโรงเรียนใน 12 เขตสุขภาพร่วม Kick off การฉีดวัคซีนวันนี้เป็นวันแรกพร้อมกันผ่านระบบ Zoom
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
เผยว่า นายกรัฐมนตรีทักทายเด็กนักเรียนที่นั่งรอเข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมกล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ให้การดูแลเด็ก/เยาวชน ครู อาจารย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่ ซึ่งเป็นระบบการทำงานของประเทศไทย ที่ส่วนราชการ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ร่วมกันทำงาน ปรึกษาหารือกันเพื่อให้เกิดผลดีกับประเทศชาติบ้านเมือง รัฐบาลห่วงใยในทุกความเดือดร้อนของประชาชนและทุกสถานการณ์ ทั้งโควิด-19 อุทกภัย และเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาทุกอย่างให้ดีที่สุด
นายกรัฐมนตรียังกล่าวยินดีที่ได้เป็นประธานในงาน Kick off การฉีดวัคซีนเพื่อสร้างเกราะป้องกันให้แก่เด็กนักเรียน เพื่อเปิดเทอมอย่างปลอดภัย ในการเปิดภาคเรียนวันที่ 1 พฤศจิกายน นี้ แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะกระทบทั่วโลก แต่การศึกษาเป็นสิ่งสำคัญ รัฐบาลจำเป็นต้องรักษาระบบการศึกษาไว้ให้ได้ พร้อมทั้งบริหารจัดการ ส่งเสริมให้มีการจัดการเรียนการสอนช่วงโควิดอย่างต่อเนื่อง ซึ่งครูมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการปรับวิธีการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ ในช่วงที่เด็ก/เยาวชนเรียนออนไลน์ที่บ้าน อันเป็นช่วงเวลาที่ผู้ปกครองได้ใช้เวลาครอบร่วมกับบุตรหลานด้วย
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่าการฉีดวัคซีนให้กับเด็ก/เยาวชน ในวันนี้เป็นการส่งเสริมความพร้อมด้านการศึกษาให้เดินหน้าต่ออย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เพื่อให้เกิดความมั่นใจกับผู้ปกครองเมื่อต้องส่งบุตรหลานมาเรียนที่โรงเรียน โดยเป็นการฉีดวัคซีน Pfizer ซึ่งเป็นวัคซีนที่มีประสิทธิภาพ ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือ WHO เป็นวัคซีนที่สามารถใช้ในกลุ่มเด็กได้ และรัฐบาลจะเดินหน้าจัดหาวัคซีนชนิดอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้สามารถเดินหน้าการฉีดวัคซีนได้ครอบคลุมทั้งหมด ซึ่งจะทำให้การเปิดภาคเรียนที่ 2 สามารถดำเนินการได้อย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าในปีหน้าจะมีวัคซีนเพียงพอ รัฐบาลเตรียมแผนวัคซีน 150-170 ล้านโดส ให้ฉีดได้ครบถ้วนตามเป้าหมายไว้ และขอฝากให้เด็กนักเรียนได้มีจุดหมายในการเรียนหนังสือว่าจะเรียนหนังสือไปเพื่ออะไร ขอให้รู้ว่าตนเองชอบสิ่งใด แล้วทำตามความฝัน ทำในสิ่งที่ตนเองอยากทำ แต่ต้องไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เพราะทุกคนคืออนาคตของชาติ
จากนั้น นายกรัฐมนตรีลั่นระฆังโรงเรียนพร้อมกับ 15 โรงเรียน ใน 12 เขตสุขภาพ และคณะผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงสาธารณสุข ก่อนเดินพูดคุยให้กำลังใจนักเรียนและบุคลากร พร้อมร่วมถ่ายภาพกับพ่อแม่ผู้ปกครอง ซึ่งนายกรัฐมนตรีย้ำสร้างความมั่นใจว่า การฉีดวัคซีนให้บุตรหลานเยาวชนในวันนี้มีความปลอดภัย พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ รัฐบาลจะเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้ครบทุกมิติ
แสงประหลาดบนฟ้องฟ้าระนอง เฉลยแล้ว อ.เจษฎา อธิบายคืออะไร
แสงประหลาดบนฟ้องฟ้าระนอง เฉลยแล้ว อ.เจษฎา อธิบายคืออะไร ไม่ใช่เรื่องเหนือธรรมชาติ ผู้สื่อข่าวรายงาน เกิดเหตุการณ์ แสงประหลาดขึ้นบนท้องฟ้า จังหวัดระนอง ประชาชน ในหลายพื้นที่ของจังหวัดสามารถเห็นได้ และโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย ถามหาสาเหตุของปรากฎการณ์ซี่งมีลักษณะเป็นสีไฟสีเขียว ห้อยหยดลงมาเป็นแท่งคล้ายเสาไฟ แทบจะไม่เคยมีการบันทึกว่าเคยพบเห็นมาก่อน
แสงไฟประหลาดบนท้องฟ้าระนอง ประชาชนชาวจังหวัดระนองรายหนึ่ โพสต์รูปแสงประหลาดบนท้องฟ้า ลงกลุ่ม ที่นี่ ระนองนิ มีผู้แชร์กว่า 600 ครั้ง ต่อเหตุการณ์แสงประหลาดบนท้องฟ้านี้ ล่าสุด อ.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ออกมาอธิบายว่า คือ “Pillars of Light เสาแห่งแสง ” แท้จริงแล้ว เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในไทย และได้รับรางวัลประกวดภาพถ่ายของ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) ด้วย ซึ่งเหตุครั้งนั้นเกิดขึ้นที่ บริเวณเขาแหลมหญ้า
“ในต่างประเทศ อย่างประเทศฟิลิปปินส์ ก็มีการพบเห็น pillars of light แบบนี้มาก่อน และเคยเป็นที่แตกตื่นกันก่อนเช่นกัน โดยเรียกกันว่า Lansuk-Lansuk ที่แปลว่า เทียนไข (ดูภาพประกอบ) ซึ่งทางหน่วยงาน PAGASA (Philippine Atmospheric, Geophysical and Astronomical Services Administration) ประเทศฟิลิปปินส์ ได้อธิบายปรากฏการณ์แสงประหลาดนี้ไว้ว่าเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติ ทางอุตุนิยมวิทยา ที่เกิดจากผลึกน้ำแข็งในอากาศ สะท้อนแสงของดวงจันทร์
ผู้เชี่ยวชาญของ PAGASA ได้เพิ่มเติมว่า แม้ว่าเมฆชนิดต่างๆ จะสามารถมีผลึกน้ำแข็งอยู่ในเมฆได้ แต่ไม่ใช่ว่าเมฆทุกชนิดจะสามารถสะท้อนแสง ให้เกิด “แสงในแนวตั้ง” ขึ้นบนท้องฟ้าได้
เสาแห่งแสงนั้นอาจจะปรากฏขึ้นที่ไหนก็ได้ ตราบเท่าที่สภาพแวดล้อมปัจจัยตรงนั้นจะเหมาะสม โดยแสงที่เห็นที่ฟิลิปปินส์ครั้งนั้น ปรากฏขึ้นประมาณ 20-30 นาที เนื่องจากผลึกน้ำแข็งในก้อนเมฆนั้นก็ค่อยๆ สลายตัวไป ทำให้การสะท้อนแสงนั้นค่อยๆ หายไปด้วย หลักการเดียวกันนี้ ก็สามารถจะใช้อธิบายปรากฏการณ์ที่ “จันทร์ทรงกลด” หรือ “halo” ขึ้นได้เช่นกัน๐” อ.เจษฎากล่าว เว็บตรง / บาคาร่าเว็บตรง